Subscribe:

Ads 468x60px

เรื่องเสียว : หนอนน้อย ( ตอนที่ 2)

### ตอนที่ 2 ###

เช้านั้นเป็นเช้าวันศุกร์ กว่าผมจะลุกจากเตียงขึ้นล้างหน้าแปรงฟันได้ก็ปาเข้าไปเกือบๆ สิบโมงเช้า เพราะเมื่อคืนกว่าจะหลับลงได้ก็ตอนที่ไก่มันเริ่มขันกันแล้ว ที่จริง สิบโมงเช้าน่ะ สำหรับผมแล้วไม่ถือว่าสายหรอกครับ เพราะสมัยเรียนรามฯ เคยตื่นเที่ยงซะด้วยซ้ำถ้าไม่มีเรียนเช้า แต่สำหรับชีวิตที่บ้านเล็กๆ ของผมหลังนี้ ถือว่าผิดปกติชนิดที่แม่ทักทันทีที่ผมโผล่หน้าเข้าไปในครัว

“ทำไมตื่นสายนักล่ะ เมื่อคืนเล่นกับน้องจนดึกล่ะสิ” ผมยิ้มให้แม่ขณะกดน้ำร้อนใส่ถ้วยกาแฟ

.. ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนระหว่างผมกับหน่องปรากฎวูบขึ้นมาในสมองตามคำแม่ แม่ทายถูกเผงที่ว่าผมกับหน่องเล่นกันจนดึก แต่แม่ต้องคิดไม่ถึงเด็ดขาดว่าเราเล่นอะไรกัน
.. แม่ผมเป็นแม่บ้านประเภทที่คนเดี๋ยวนี้เติมสร้อยให้ว่า “สมัยเก่า” เพราะดูแม่จะมีความสุขกับการอยู่บ้านปรนนิบัติลูกผัวเต็มที่ เช้านี้ก็เหมือนกัน อาหารเช้า ข้าวต้มพร้อมกับเต็มโต๊ะรอผมอยู่แล้ว

“พ่อบอกว่าวันนี้ให้พลไปรับหน่องกลับจากโรงเรียนด้วย เพราะพ่อเขาจะเลยเข้ากรุงเทพฯ กว่าจะกลับก็คงมืดค่ำ”

.. ตั้งแต่หน่องถูกรับมาอยู่กับครอบครัวเราเกือบๆ สามเดือนมาแล้วนั่น พ่อผมเหมือนมีลูกอ่อนให้คอยดูแล พ่อผมเป็นน้องชายแท้ๆ ของลุงรอน และมีกันแค่สองคนพี่น้อง จึงรักกันมาก มากจนความรักนั้นเหลือเผื่อแผ่มาถึงเจ้าหน่องด้วย พ่อทำหน้าที่ทั้งรับและส่งหน่องไปโรงเรียนทุกวัน และนี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ผมกลับมาอยู่บ้านที่พ่อผลักธุระนั้นให้ผม

“พ่อเข้ากรุงเทพฯ ทำไมแม่” ผมถามขณะตักข้าวต้มเข้าปาก
“ก็เรื่องพ่อแม่เจ้าหน่องนั่นแหละ” แม่บอก
“เห็นว่าตกลงกันได้แล้ว คือพี่รอนเขายอมหย่า แล้วก็จะยกหน่องให้แพรเลี้ยง ไม่ต้องขึ้นศาลอะไรกันให้เรื่องมากแล้ว”
“อ้าว ทำไมลุงรอนเกิดยอมง่ายๆ ล่ะแม่ ก็เห็นแย่งกันจะเป็นจะตาย” แม่ผมส่งเสียงถอนใจดังเฮือก แล้วบอกว่า
“เพราะพี่รอนเขาเป็นข้าราชการ มีประวัติฟ้องร้องอื้อฉาวแบบนี้มันไม่ดี เห็นพ่อบอกว่า แพรจะเอาหน่องกลับไปอยู่บ้านเขาที่ปักษ์ใต้เลย พ่อเขาจะขึ้นไปฟังรายละเอียดเรื่องนี้แหละ”

.. ผมแทบสำลักข้าวต้มเมื่อได้ยินแม่บอกว่าเจ้าหน่องจะถูกเอาตัวไปอยู่ที่จังหวัดบ้านเกิดของป้าแพรที่ปักษ์ใต้ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ผมคงรู้สึกเฉยๆ ติดจะสบายใจซะอีก เพราะจะได้ครองห้องคนเดียวเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา แต่เหตุการณ์เมื่อคืน มันเชื่อมผมกับหน่องให้ผูกพันกันแน่นหนาขึ้นจนยากที่ผมจะรับได้ง่ายๆ

.. แม่ผมยังบ่นถึงเรื่องของลุงรอนกับป้าแพรอีกยาวเหยียด ผมฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เพราะใจมัวแต่ครุ่นคิดเรื่องเจ้าหน่อง แว่วๆ แม่บอกว่าพ่อเคยเตือนลุงรอนแล้วว่าอย่าแต่งงานกับป้าแพร เพราะอายุห่างกันถึง 18 ปี สรุปแล้ว แม่คิดว่าเรื่องหย่าร้างนั้นเกิดขึ้นเพราะความแตกต่างของอายุ ซึ่งเป็นคนละเรื่องเลยกับสาเหตุแท้จริงที่ผมรู้จากหน่องเมื่อคืน

.. วันนั้นผมครุ่นคิดเรื่องนี้ทั้งวัน แม้กระทั่งขณะนั่งสอบสัมภาษณ์งานที่แบงค์... ซึ่งจนถึงตอนนี้ ผมยังไม่รู้เลยว่าได้งานนั้นมายังไง... อาจจะเป็นเพราะผมคิดถึงแต่หน่อง และเหตุการณ์เมื่อคืนตลอดทั้งวันก็เป็นได้ ที่ทำให้อวัยวะของผมแข็งตัวขึ้น ทันทีที่ผมเห็นเขาในชุดนักเรียนยืนรออยู่ที่ประตูโรงเรียนในบ่ายวันนั้น

.. เจ้าหนูวิ่งหัวซุนมากอดผมด้วยอาการที่บ่งชัดว่าดีใจมาก และอาการกอดนั้น เจ้าหนูเจตนางอตัว ซบหน้ากับท่อนเนื้อในกางเกงของผมพอดิบพอดี และเหมือนแกล้ง เจ้าหนูสูดหายใจลึก สูดกลิ่นจากกลางลำตัวของผมเข้าไปเต็มปอด ก่อนจะส่ายและยีหน้าลงไปตรงบริเวณท่อนลำของผมแรงๆ อีกหลายครั้ง เล่นเอาผมถึงกับตัวงอด้วยความเสียว และเกรงสายตาผู้คนจำนวนมากที่อยู่แถวนั้น นี่ล่ะครับ เจ้าหน่องของผม

.. หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนแล้ว ดูเหมือนว่าเขาไม่เก็บงำความก๋ากั่นและเก่งกาจในเรื่องเพศเอาไว้เลย... นึกแล้วก็ให้ประหลาดใจ สมัยผมอายุเก้าขวบนั้น ของเล่นโปรดคือตุ๊กตายอดมนุษย์ทั้งหลายที่แม่ยังเก็บใส่ลังไว้ในห้องเก็บของ แต่สำหรับหน่องแล้ว ของเล่นโปรดของเขาดูเหมือนจะเป็นท่อนเนื้อขนาดเจ็ดนิ้วของผมนี่เอง

.. เรารอเพียงไม่กี่นาที รถเมล์สายที่ผ่านบ้านผมก็มาถึง ช่วงนั้นรถแน่นพอสมควรเพราะเป็นเวลาโรงเรียนเลิก แต่ก็มีคนลุกให้เจ้าหน่องนั่งทันที ผมยิ้มให้ชายคนนั้นอย่างขอบคุณ นึกเปรียบเทียบกับน้ำใจคนกรุงเทพฯ กับคนที่นี่ แม้จะห่างกันแค่ขับรถไม่กี่ชั่วโมง แต่น้ำใจผู้คนนั้นห่างกันไกลนัก แต่สิ่งที่เหมือนกรุงเทพฯ เข้าไปทุกทีก็คือการจราจรที่นับวันจะหนืดมากขึ้น

.. เกือบสิบนาทีผ่านไปโดยที่รถเมล์เคลื่อนที่ห่างจากเดิมเพียงแค่ไม่กี่เมตร เหงื่อผมชักหยดด้วยความร้อนอบอ้าว หน่องคงสงสาร จึงดึงแขนผมให้นั่งลงโดยตัวเขาลุกขึ้นมานั่งตักผมแทน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความตื่นเต้นที่สุดในชีวิตของผมอีกครั้ง เมื่อคืน ผมมีประสบการณ์เสียวกับเด็กเก้าขวบไปแล้วเป็นครั้งแรกในชีวิต และสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณๆ อยู่ในตอนนี้คือ ประสบการณ์เสียวกับเด็กเก้าขวบบนรถเมล์ที่มีคนแน่นจนล้นเป็นครั้งแรกในชีวิต

.. ที่จริงแล้ว ผมก็เคยมีเซ็กซ์บนรถทัวร์กรุงเทพฯ-เชียงใหม่มาแล้วครั้งหนึ่ง กับเพื่อนมาดแมนที่เป็นนักกีฬาตระกร้อทีมมหาวิทยาลัย มันกดหัวผมลงไปดูดควยให้มันขณะที่ (คิดว่า) คนในรถหลับกันหมดแล้ว ครั้งนั้นผมคิดว่าเป็นเซ็กซ์ที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตแล้ว แต่ถ้าเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหน่องแล้วล่ะก็... เทียบไม่ติดฝุ่นเลยครับ

.. เริ่มต้นจากการที่หน่องส่ายก้นของเขาเบาๆ วนเป็นวงอยู่บนตักของผม ท่อนเนื้อของผมเริ่มผงาดรับแรงถูนั้นทันทีจนผมรู้สึกอึดอัด จากนั้นไอ้ตัวเล็กมันยกกระเป๋านักเรียนสีดำใบโตของมันขึ้นมาวางบนตัก เท่านั้นเอง มือขวาของผมที่เกาะเอวเขาอยู่ ก็เริ่มเลื้อยเข้าไปใต้กระเป๋าใบนั้นอย่างรู้งาน และความหาซิปกางเกงขาสั้นสีกากีของหน่องจนเจอ ก่อนจะรูดลงช้าๆ

..อผมเหลือบมองผู้ชายคนที่นั่งด้านข้าง เห็นเขาทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง ไม่มีทีท่าจะรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างๆ เขา แต่บนรถเมล์คันนั้นไม่ใช่มีเขาเพียงคนเดียว ยังมีคนอีกมากมายที่อาจสนใจ จับสายตาอยู่ที่มือของผม ซึ่งเริ่มขยุกขยิกที่หว่างขาของหน่อง ความตื่นเต้นที่ว่านี้ ทำให้ผมอารมณ์ทางเพศของผมพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

.. วันนี้หน่องไม่นุ่งกางเกงใน ด้วยเหตุที่ว่าตั้งแต่วันแรกที่มาถึงบ้านผม เจ้าหนูประกาศตัวทันทีว่า “หนูโตแล้ว” และไม่ยอมให้แม่ผมปรนนิบัติเหมือนเขาเป็นเด็กเล็ก ไม่ยอมให้อาบน้ำให้ ไม่ยอมให้แต่งตัวให้ ดังนั้นจึงเป็นสิทธิขาดของเขาที่จะเลือกใส่ หรือไม่ใส่กางเกงในตามแต่ใจเขา วันนี้ ผมดีใจที่เขาเลือกที่จะไม่ใส่ เพราะมันง่ายสำหรับผมที่จะเล่นควยน้อยๆ ที่ชี้ชันออกมาจากซิปกางเกงนักเรียนของเขา

.. ผมใช้แค่สามนิ้ว คือนิ้วโป้ง นิ้วชี้และนิ้วกลาง รูดหนังหุ้มควยของหน่องขึ้นลงช้าๆ เจ้าหนูนั่งนิ่ง ซึมซับความซ่านเสียวที่ผมมอบให้อย่างสงบ เขาเอนตัว หัวพิงบ่าผมและหลับตาพริ้ม แต่สองมือที่วางบนต้นขาของผม เริ่มจิกแน่นเข้า เป็นสัญญาณเพียงอย่างเดียวที่บอกให้ผมรู้ว่าเขาเสียว และมีความสุขกับรสสวาทที่ผมปรนเปรอให้ ผมรูดควยเจ้าหน่องอยู่ครู่ใหญ่ เจ้าตัวเล็กก็เริ่มมีอาการเกร็งและตัวสั่น แข้งขาเหยียดเกร็งอย่างควบคุมไม่ได้ ความซ่านเสียวที่เขาได้รับแสดงออกชัดเจนทางสีหน้า ด้วยการขมวดคิ้วและหลับตาแน่น มือซ้ายของผมต้องโอบตัวเขาให้กระชับแน่นขึ้นเพื่อไม่ให้เขางอตัว หรือหล่นลงไปจากตักผม

“หน่องโอเคมั้ย” ผมกระซิบถามที่หูเขาเบาๆ
“จะให้พี่ทำต่อมั้ย”
“ต่อครับ...อย่าหยุด หน่องจะไม่ไหวแล้ว อา...”

.. เมื่อได้รับคำยืนยันเช่นนั้น สามนิ้วของผมจึงรูดควยขนาดสามนิ้วของหน่องขึ้นลงเร็วขึ้น โดยพยายามไม่ใช้มือและแขนของผม ให้มีใครสังเกตุเห็นกิจกรรมระหว่างผมกับหน่องได้ชัดเจนนัก

.. ในที่สุด หน่องก็ถึงจุดสุดยอด เขาเกร็งมือบีบต้นขาของผมจนเจ็บ ขณะส่งเสียงครางออกมา แม้จะเป็นแค่การทำเสียงอยู่ในลำคอ แต่ผมก็เชื่อว่ามันดังพอที่จะทำให้ผู้คนที่ยืนล้อมผมอยู่ได้ยินกันถ้วนหน้า ส่วนนิ้วมือของผมใต้กระเป๋านักเรียนนั้น รับรู้ได้ถึงแรงกระตุกหงึกหงัก ของท่อนเนื้อที่แข็งและเกร็งเหยียดเต็มความยาวของมัน ก่อนจะสัมผัสกับความเปียกที่ควยของหน่องพ่นออกมา แม้จะไม่มากนัก แต่รับรองว่า หน่องจะต้องใช้กระเป๋าปิดเป้ากางเกง ไม่ให้คนเห็นรอยด่างไปจนถึงบ้านแน่นอน

.. ผมคลึงท่อนเนื้อของหน่องเล่นอยู่อีกสักพักก็ค่อยๆ รูดซิปกางเกงให้เขา โดยคราวนี้ผมต้องใช้สอดมือซ้ายเข้าไปช่วย เพราะกลัวว่าซิปมันจะขบเอาชิ้นส่วนที่น่ารักที่สุดของหน่องเข้า

.. ผมไม่แน่ใจว่า การเล่นเสียวระหว่างผมกับหน่องกินเวลานานแค่ไหน แต่พอผมมีโอกาสสนใจสิ่งรอบตัวอีกครั้ง รถเมล์ก็วิ่งมาถึงป้ายที่เราต้องลงเพื่อต่อรถสองแถวเข้าบ้านกันแล้ว ตอนที่ผมจูงหน่องเดินมาถึงคิวรถสองแถว ซึ่งห่างจากป้ายรถเมล์ประมาณไม่ถึงร้อยเมตรนั้น เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง “หน่อง, พล”

.. เราสองคนหันกลับไปมองหนุ่มใหญ่ในชุดเครื่องแบบครึ่งท่อน "ลุงรอน" พ่อของหน่องนั่นเอง ผมยกมือขึ้นสวัสดีลุงรอนซึ่งถือกระเป๋าผ้าใบไม่โตนักอยู่ในมือ ขณะที่หน่องถลาเข้าไปหาอ้อมแขนที่กางออกต้อนรับ และอุ้มขึ้นหอมแก้มซ้ายขวาอย่างรักใคร่

.. ลุงรอนนั้น แม้จะอายุ 46 ปีแล้ว แต่ดูยังหนุ่มมากโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับพ่อ พ่อผมลงพุงเพราะปล่อยตัว ขณะที่ลุงรอนหุ่นดี กล้ามเนื้อยังแน่นไปทั้งตัว มีเพียงแค่สีผมเท่านั้นที่บ่งบอกวัย อาจจะเป็นเพราะอาชีพนายทหารของเขาก็ได้ ถ้าจำไม่ผิด ผมเคยบอกไปแล้วเมื่อตอนก่อนว่าลุงรอนเป็นคนที่หล่อมาก และว่าเจ้าหน่องนั้นได้เค้าหน้ามาจากพ่อ ตอนนี้ผมต้องย้ำอีกสักนิดว่า ความหล่อแบบชายชาตรีของลุงรอนนั้น เล่นเอาผมใจรอนๆ ได้ทุกครั้งที่เห็นทีเดียว

.. อารามดีใจที่เราสามคนได้พบกันโดยบังเอิญ ทำให้ผมลืมเรื่องรอยด่างที่ยังหมาดๆ บนกางเกงนักเรียนของเจ้าหน่องเสียสนิท... การปรากฎตัวของลุงรอนที่บ้านอย่างกระทันหันนั้น ทำให้แม่ของผมโกลาหน วิ่งวุ่นจัดเตรียมอาหารน้ำท่าเป็นการใหญ่ ผมกับเจ้าหน่องเลยกลายเป็นลูกมือ ปั่นจักรยานออกไปซื้อของให้แม่จ้าละหวั่น
.. เมื่อพ่อกลับถึงบ้านในตอนเกือบๆ สามทุ่มในคืนนั้น จึงเห็นวงสนทนาที่ประกอบด้วยแม่ ลุงรอน เจ้าหน่องและผม กำลังขโมงโฉงเฉงอย่างออกรส โดยมีเบียร์ และกับแกล้ม พร้อมน้ำอัดลมของแม่กับเจ้าหน่องวางอยู่อย่างเพียบพร้อมที่กลางวง

.. พ่อเล่าว่า ป้าแพรยืนยันว่าจะมารับหน่องกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้ เพราะอยากจะกลับใต้โดยเร็วที่สุด แต่พ่อขอร้องเอาไว้ เพราะอยากให้หน่องมีเวลาอยู่กับลุงรอนเพื่อร่ำลาก่อนสักสองวัน โดยรับปากว่าจะพาหลานไปส่งเองในตอนเย็นวันอาทิตย์ และการที่ลุงรอนมานั่งอยู่ที่บ้านเราคืนนี้ ก็เพราะพ่อโทรศัพท์ไปตามตั้งแต่กลางวันแล้วนั่นเอง

.. คืนนั้น กว่าที่วงสนทนาจะเลิกก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน ตลอดเวลา เจ้าหน่องนั่งตักพ่อมัน และตาแป๋วฟังคำสนทนาของผู้ใหญ่อย่างสนอกสนใจ ไม่มีใครไล่เจ้าหน่องไปนอน เพราะเหตุผลสองประการ คือหนึ่ง พรุ่งนี้เป็นวันหยุด เจ้าหน่องไม่ต้องตื่นเช้าไปโรงเรียน และสองคือ ทุกคนอยากให้มันมีโอกาสได้อยู่กับพ่อให้มากที่สุด เพราะอีกเพียงแค่สองวัน พ่อลูกคู่นี้ก็จะถูกพรากห่างจากกันไปคนละมุมประเทศแล้ว

.. ผมตั้งใจยกห้องให้พ่อลูกคู่นี้ โดยอาสาจะมานอนที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ เผื่อว่าพ่อลูกเขาอยากมีกิจกรรมอะไรกันที่ไม่อยากให้ผมรับรู้ แต่ลุงรอนไม่ยอม และเรียกผมให้เข้าไปนอนในห้องด้วยกัน แถมจัดการปูเสื่อและผ้านวมกับพื้นห้องให้ผมอย่างเรียบร้อยด้วย พอผมนั่งลงบนผ้านวมเรียบร้อย ลุงรอนก็ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ แล้วทันใดนั้น ลุงรอนก็ทำให้ผมตกใจ ถึงขั้นรู้สึกตัวเลยว่าเลือดได้เผือดหายไปจากสีหน้า

“เมื่อตอนเย็นน่ะ ลุงเห็นนะว่าพลทำอะไรหน่องบนรถเมล์”

.. ลุงรอนเล่าว่า เขาอยู่บนรถเมล์ก่อนที่ผมกับหน่องจะขึ้นที่ป้ายหน้าโรงเรียนซะอีก ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมลุงรอนไม่ทักเราสองคนเสียตั้งแต่แรก แต่กลับนิ่งดูจนกระทั่งได้เห็นผมเล่นควยลูกชายตัวน้อยของเขาแบบนั้น ผมเหลือบมองหน่องที่ปีนขึ้นไปบนเตียงชั้นบนของเขาแล้ว แต่ยังนั่งเท้าคางฟังผมกับพ่อเขาคุยกันอยู่โดยไม่มีวี่แววว่าจะง่วงแต่อย่างใด แถมยังยิ้มกว้างให้ผมซะอีก

.. เมื่อเห็นสีหน้าอาการของผมเข้า ลุงรอนยิ้ม เอื้อมมือมาลูบแก้มผมเบาๆ เหมือนกับจะบอกว่าไม่ต้องตกใจ แล้วบอกกับผมเหมือนอย่างที่หน่องเคยบอกเมื่อคืนว่า เขากับหน่องก็เล่นอะไรกันแบบนี้บ่อยๆ เพราะเจ้าหน่องมันชอบ แต่ไม่เคยกล้าที่จะเล่นแบบเปิดเผยในที่สาธารณะแบบนั้น ลุงรอนบอกผมว่าเขาเป็นเกย์ และเป็นเกย์ที่ชอบเด็ก ยิ่งเด็กยิ่งชอบ แต่ด้วยสภาพสังคมแบบทหารของเขา ทำให้ต้องระมัดระวังในเรื่องแบบนี้อย่างเข้มงวด และที่ตัดสินใจแต่งงานกับป้าแพร ซึ่งเป็นเด็กวัยรุ่นที่มาหลงใหลเสน่ห์แบบแมนๆ ของเขาเมื่อสิบปีก่อนนั้น ก็เพราะเริ่มมีเสียงซุบซิบถึงสาเหตุที่เขาครองตัวเป็นโสดมานานถึง 36 ปีนั่นเอง

.. ผมเงยหน้ามองลุงรอน แววตาของลุงดูอ่อนโยนนัก ทำให้วงหน้าคมสันนั้น มีเสน่ห์มากขึ้นจากที่ผมเคยเห็นหลายเท่า แล้วใบหน้าที่เริ่มมีหนวดเคราเขียวครึ้มนั้นก็ค่อยๆ โน้มเข้ามา ส่วนมือที่ลูบแก้มก็เลื่อนไปที่ต้นคอผม แล้วโน้มหน้าผมเข้าหา ผมได้กลิ่นเบียร์จากลมหายใจของลุงรอนด้วย ริมฝีปากเราสัมผัสกันเบาๆ ก่อนจะบดเบียดแน่นเข้า แล้วลิ้นนุ่มของลุงรอนก็สอดเข้ามากวัดไกวอยู่ในปากผม ขณะที่มือขวาล้วงลงไปที่กางเกงนอน และแกะกระดุมให้ควยของผมเหยียดหัวออกมาชูชันได้อย่างสะดวก จากนั้นก็กำมือรอบแล้วถอกขึ้นลงช้าๆ

“ลุงเฝ้ามองพลมานานนักหนาแล้ว อยากทำยังงี้มานานแล้ว...” ลุงรอนพูดเสียงกระเส่าที่ข้างหูผม ก่อนจะเลื่อนปากมาประกบปากผมอีกที

.. เราบดปากกันอย่างเมามัน รสจูบของลุงรอนในขณะนั้น ร้อนแรงขนาดทำให้ผมลืมเสียสนิทว่า ในห้องนี้ยังมีเจ้าหน่องอยู่อีกคน แต่ผมลืมเจ้าตัวเล็กได้ไม่นาน เพราะทันใดนั้น ผมก็รู้สึกเสียววูบที่หัวควยขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ความอบอุ่น ชุ่มชื้น และเร่าร้อนที่เกิดขึ้นกับแกนกลางตัวผมนั้น ไม่ต้องลืมตาขึ้นมอง ผมก็รู้ว่าเป็นเพราะเจ้าหน่องกำลังดูดควยให้ผมอยู่ เหมือนเช่นที่มันทำให้ผมเมื่อคืนนั่นเอง

.. สองพ่อลูก ผนึกกำลังกันปรนเปรอรสสวาทให้ผมต่อไป โดยการที่ลุงรอนค่อยๆ ประคองผมให้เอนหลังลงนอนราบกับพื้น โดยที่ปากของเราไม่แยกจากกันเลย และครู่ใหญ่หลังจากนั้น ลุงก็เงยหน้าขึ้น และถอดเสื้อยืดของผมออก ส่วนเจ้าหน่องที่อยู่ด้านล่างนั้น ก็ถอนปากจากควยผมเพื่อดึงกางเกงนอนของผมจนหลุดพ้นปลายขา ด้วยแรงดึงเพียงแค่จังหวะเดียว ร่างเปลือยเปล่าของผมก็ปรากฎเต็มสายตาของลุงรอนและลูกชายของเขา ผมสูงร้อยเจ็ดสิบเจ็ด หุ่นดีเพราะวิ่ง และเล่นฟุตบอลเพื่อออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดังนั้นจึงไม่เคยอายที่จะเปลือยต่อหน้าคู่นอนคนไหนของผมทั้งสิ้น รวมทั้งสองพ่อลูกคู่นี้ด้วย พิสูจน์ได้จากควยขนาดเจ็ดนิ้วของผมชี้ชูชันขึ้นเพดานอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ

.. เจ้าหนูวัยเก้าขวบก้มหน้าลงปฏิบัติกามกิจกับหัวควยของผมต่อในทันที ปากน้อยๆ ของเขาอ้ากว้าง และครอบลงไปบนหัวควยของผมแล้วออกแรงดูดจนแก้มตอบ ขณะที่มือเล็กๆ ทั้งสองข้างนั้นก็กำไว้ที่ส่วนโคน พร้อมรูดขึ้นลงเป็นจังหวะเดียวกับศีรษะของเขา ฝ่ายลุงรอนนั้นยืดตัวขึ้นมองเรือนร่างเปลือยของผมตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างชื่นชม ขณะถอดเสื้อของตัวเองออก

.. ลุงรอนนิ่งมองลูกชายตัวน้อยของเขาดูดควยอวบอ้วนของผมอย่างเพลิดเพลิน ในใจคงนึกภูมิใจกับเทคนิคการให้ความสุขกับท่อนลำที่เขาพร่ำสอนลูกมา ส่วนผมก็มองแผงอกที่หนาแน่น และรกครึ้มไปด้วยขนสีดำ ที่ไล่ละลงมาถึงหน้าท้องที่แบนราบและขึ้นกล้ามเป็นลอนๆ อย่างชื่นชม และอดใจไม่ไหว ต้องดึงแขนลุงรอนให้เอนลงมา เราบดปากกันอีกครู่หนึ่ง แล้วลุงรอนก็เริ่มไซ้ที่ซอกคอ ลงต่ำไปที่หัวนมและดูดเลียทั้งข้างซ้ายและขวา

.. ผมใช้สองมือหนุนหัว ผ่อนคลายตัวเองและรับรสสวาทนุ่มๆ จากปากและลิ้นของพ่อลูกอย่างเต็มที่ ความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นทำให้ผมต้องส่งเสียงครางออกมาเบาๆ “ซีด...อูย...ดีจังเลยครับลุง...อา” จากหัวนม ลุงรอนเลื่อนลิ้นต่ำลงไปยังสะดือ และพงขนดกดำเบื้องล่าง เป้าหมายคือท่อนเนื้อของผมที่อยู่ในความครอบครองของเจ้าหน่อง ลูกชายตัวน้อยของแกนั่นเอง

.. ถึงตอนนี้ผมอดใจไม่ไหว ต้องผงกหัวขึ้นดูการแบ่งท่อนเนื้อกันดูดกันระหว่างเด็กชายวัยเก้าขวบ กับพ่อ นายทหารวัย 46 ของเขาแล้ว ผมมองควยขนาดเจ็ดนิ้วของผมสลับกันผลุบหายเข้าไปในปาก ของคนโน้นคนนี้อย่างเพลิดเพลิน ภาพนี้ ผมไม่เคยฝันมาก่อนว่าจะได้เห็น ถ้าเจ้าหน่องมันครอบส่วนหัว ลุงรอนจะเลียส่วนท่อนลำ หรือหากลุงรอนเป็นฝ่ายดูด ซึ่งแกดูดหัวควยของผมหายวับไปจนถึงโคน เจ้าหน่องตัวเล็กก็จะเลื่อนปากลงไปเลียไล้ และดูดดุนกระโปกของผม บางครั้งลิ้นของเจ้าหน่องยังล้วงลึกไปถึงเหลือบถ้ำของผมด้วย เล่นเอาสะดุ้งเฮือกได้เป็นระยะๆ ทีเดียว

.. แล้วความเสียวซ่านที่ผมได้รับก็เริ่มเข้มข้นขึ้น เมื่อลุงรอนอมท่อนเนื้อของผมแล้วขโยกขึ้นลงอย่างเต็มลูกสูบ โดยมีเจ้าหน่องรับหน้าที่ทัพหนุนโดยการเลียกระโปกผมแบบเน้นๆ อยู่ข้างล่าง ฃ

“ลุงครับ...ผมจะออกแล้วครับ...น้ำผมจะแตกแล้วคร๊าบ...” ผมครางด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง ก่อนจะสูญเสียการควบคุม
“อ๊ากซ์”... น้ำรักของผมแตกทะลักอย่างรุนแรง สายแรกมันหายวูบเข้าไปในคอของลุงรอนก่อนที่เขาจะถอนปาก ส่วนสายที่สองพุ่งใส่หน้าของเขาและลูกชายแบบเต็มๆ

.. ผมเกร็งหน้าท้องขึ้นมาด้วยความเสียว จึงทันเห็นเจ้าหน่องครอบปากลงกับหัวควยของผม และรับน้ำเงี่ยนสายที่สาม สี่ และห้าของผมดูดกินไปจนหมด และยังดูดเลียอย่างอ้อยอิ่งอยู่อีกนาน จนกระทั่งควยผมอ่อนตัวลงแล้วนั่นแหละ มันถึงยอมถอนปากออกไป แม้จะเป็นการนอนให้สองพ่อลูกผลัดกันดูดควยให้ก็ตาม แต่ผมก็เสียพลังงานไปไม่ใช่น้อย หรือเป็นเพราะความตื่นเต้นกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้ก็ไม่รู้ที่ทำให้ผมหมดแรง ต้องนอนผึ่งนิ่งๆ และได้แต่มองขณะที่สองพ่อลูกโผเข้าหากัน กอดและจูบปากกันอย่างดูดดื่ม โดยไม่ใส่ใจน้ำเงี่ยนของผมที่เลอะหน้าทั้งสองจนไหลย้อยเป็นทาง...

.. เมื่อคืนวาน หลังจากที่ผมและหน่องเสร็จสิ้นกามกีฬาของเราแล้วนั้น ผมได้ตะล่อมถามหน่องถึงความสัมพันธ์ของเขากับพ่อ ทำให้ได้ความว่าพ่อลูกคู่นี้ได้ “ร่วมรัก” กันมาหลายครั้งหลายหน นับครั้งไม่ถ้วนในรอบปีที่ผ่านมา แต่ว่าทุกครั้งก็เป็นเพียงแค่การดูดด้วยปาก หรือถอกให้ด้วยมือเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เจ้าหน่องยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่เคยถูกล่วงล้ำก้ำเกินทางเบื้องหลังเลย แม้แต่ครั้งเดียว แต่ไม่รู้ทำไม ผมถึงแน่ใจว่า กิจกามระหว่างเจ้าหน่องกับลุงรอนที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาผมต่อไปนี้ จะต้องทำให้เจ้าหน่องสูญเสียพรหมจรรย์ที่รักษามาเก้าปีของเขาอย่างแน่นอน... แถมจะต้องไม่ใช่การเสียให้กับควยเพียงท่อนเดียวซะด้วยสิ... ขอผมพักเหนื่อยอีกแป๊บเถอะ แล้วผมจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ให้ฟัง...

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น