Subscribe:

Ads 468x60px

เรื่องเสียว : หนอนน้อย ( ตอนที่ 4)

### ตอนที่ 4 ###

รุ่งขึ้น ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงแปลกๆ ดังอยู่ข้างหู พอสายตาปรับชินกับแสงสลัวของยามเช้าในห้องได้แล้ว ภาพที่เห็นก็คือ ลุงรอนกำลังนอนหงาย สอดมือหนุนไว้ที่ต้นคอ หันมายิ้มให้ผมอย่างสบายอารมณ์ ส่วนเจ้าหน่องนั้นกำลังนั่งยองๆ คล่อมส่วนกลางลำตัวของพ่อ และกำลังขย่มตัวขึ้นลงอย่างเมามัน

“ซีด... ตื่นแล้วหรือครับพี่พล อา...” มันยังมีแก่ใจทักผม ตาผมสว่างในทันที อดไม่ได้ต้องขยับตัวไปก้มดูใกล้ๆ เห็นควยขนาดเขื่องของลุงรอน ผลุบเข้าผลุบออกจากรูก้นของหน่องที่กำลังควบขับอย่างสนุกสนาน เสียงก้นของหน่องตีกับต้นขาของลุงรอนดังแป๊ะๆ ผมไม่รู้หรอกว่าเหตุการณ์นี้ดำเนินมานานเท่าไหร่แล้ว แต่ขณะที่กำลังก้มมองอย่างใกล้ชิดนั้นเอง ลุงรอนก็ถึงจุดสุดยอด น้ำแตกอัดใส่รูของหน่องทันที ส่วนหนึ่งไหลย้อนกลับออกมาเปียกเปรอะท่อนลำ เมื่อถูกแรงถูไถจากรูก้นของหน่องที่เร่งจังหวะขย่มอย่างเมามันยิ่งขึ้น ก็แตกเป็นครีมขาวฟ่อด

.. ลุงรอนเกร็งไปทั้งตัว แอ่นยกส่วนกลางลำตัวขึ้นสูง และร้องดังไม่เป็นภาษา จนเมื่อร่างของลุงรอนหยุดเกร็ง และควยท่อนใหญ่เริ่มอ่อนตัวลงแล้วนั่นแหละ เจ้าหน่องจึงหยุดควบ มันยิ้มกว้างให้ผมอย่างภาคภูมิใจในความสามารถของตัวเอง ก่อนจะโน้มตัวนอนทับร่างเปลือยของพ่อ แล้วก็จูบปากกันอย่างดูดดื่ม และแน่นอน คิวต่อไปก็คือผม

.. เจ้าตัวเล็กฟัดพ่อมันอยู่ชั่วครู่ก็ลุงมายืนคล่อมเอวผมแล้วค่อยๆ ทรุดตัวนั่งยองๆ ลง ผมจับควยตัวเองให้รอรับอยู่แล้ว ทุกอย่างจึงราบรื่นแบบผลุบหายไปมิดลำในจังหวะเดียว ผมเสียววูบด้วยความคับแน่นที่บดเบียดอยู่รอบลำควย เจ้าหน่องเรียนรู้ที่จะใช้เทคนิคขมิบรูก้นขณะขยับก้นขึ้นลงได้ดีอย่างเหลือเชื่อ เด็กคนนี้ทำให้ผมแปลกใจได้ตลอดเวลาเลยทีเดียว

“หน่องเก่งมั้ยครับ อูย...พี่พลครับ หน่องเก่งมั้ย ซีด” เจ้าตัวเล็กมองหน้าผมแล้วถามแบบนั้น
“เก่งจ๊ะเก่ง..ซีด...เก่งมาก...อย่าหยุดนะหน่องนะ อูย...” จากการควบขับที่เนิบๆ ช้าๆ ก็เริ่มเร็วและแรงขึ้น เจ้าตัวเล็กขย่มควยผมดังปั๊บๆๆ ความเสียวเริ่มก่อตัวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่นาน ผมก็แทบทนไม่ไหว
“อา....ซีด..พี่ไม่ไหวแล้วหน่อง...” ผมส่งเสียงได้แค่นั้น ลุงรอนก็ขยับมาประกบปากกับผม แกสอดลิ้นลึกเข้าแล้วปาดป้ายไปทั่วโพรงปาก แว่วๆ เสียงเจ้าหน่องร้องดังๆ ว่า
“ออกเลยครับพี่ ออกเลย ออกในรูของหน่องเลย...” รสจูบอันแสนวิเศษของลุงรอน บวกกับแรงเสียวอันเกิดจากเจ้าหน่อง ซึ่งกำลังนั่งควบขย่มควยผมอยู่อย่างเมามัน มันเกินพอที่จะทำให้ผมถึงจุดสุดยอดแบบรุนแรงอีกครั้ง ............

.. วันนั้น บ้านหลังเล็กๆ ของเราอบอวนไปด้วยเสียงหัวเราะจากพ่อแม่ ลุงรอน ผมและเจ้าหน่อง แต่พอผ่านเที่ยงไป เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุยก็เริ่มแผ่วจางลง เนื่องเพราะใกล้เวลาที่พ่อจะต้องพาเจ้าหน่องไปส่งป้าแพรที่กรุงเทพฯ แล้วนั่นเอง โดยเฉพาะแม่นั้น ถึงกับน้ำตาไหลพรากขณะเก็บข้าวของเสื้อผ้าของหน่องลงกระเป๋า และเวลาเดินทางก็มาถึง

.. หลังจากร่ำลาแม่ของผมแล้ว เจ้าหน่องเดินมากอดผมไว้แน่น เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นจนทำให้ผมกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เหมือนกัน ผมถอดสร้อยทองหนักสองสลึงที่ซื้อไว้ห้อยพระออกแล้วคล้องคอให้หน่องเป็นที่ระลึก เราเกี่ยวก้อยสัญญากันเอาไว้ว่า จะเขียนจดหมายติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ และหากมีโอกาส ผมจะลงไปเยี่ยมเขาที่ปักษ์ใต้ด้วย แต่นอกเหนือจากข่าวคราวทางจดหมายแล้ว ผมไม่ได้เจอหน่องอีกเลย จนอีกหลายปีให้หลัง ส่วนลุงรอนนั้น กลายเป็นแขกประจำของบ้านเราหลังจากนั้น และกลายเป็นคู่เย็ดของผมต่อจากนั้นอีกหลายปี จนเลิกลากันไปเมื่อผมมาเรียนต่อต่างประเทศ แม่ยืนร้องไห้ด้วยความอาลัย ส่วนผมโบกมืออยู่หน้าบ้านด้วยใจที่ไม่เป็นปกตินัก ขณะที่รถของพ่อ พาหน่องและลุงรอนห่างออกไป... .........................

.. บ้านสวนหลังที่แม่พาหน่องไปอยู่นั้น มีคนอยู่สี่คน คืออากง อาม่า แม่ แล้วก็หน่อง แม่เป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน ส่วนพี่และน้องชายของแม่ ซึ่งหน่องต้องเรียกเป็นจีนตามที่ถูกสอนว่า “ตัวแปะ” กับ “ซาเจ็ก” นั้น ต่างแยกย้ายออกไปมีครอบครัวของตัวเองหมดแล้ว คนที่หน่องต้องเรียกว่าตัวแปะนั้น หน่องไม่เคยเห็น เพราะลงไปทำงานทำการและมีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดพังงา ส่วนซาเจ็กนั้น เป็นคนหนุ่มวัยยี่สิบหก มีภรรยาเป็นคนทรงเจ้า ซึ่งแม่บอกว่ามีรายได้ดีมาก ซาเจ็กจึงไม่ต้องทำงานทำการอะไรเป็นเรื่องเป็นราว วันๆ จึงมานั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่ร้านขายเครื่องมือเกษตรของอากง ซึ่งตั้งอยู่ในตัวจังหวัดอย่างสบายใจเฉิบ

.. หน่องเล่าว่า เขาไม่ได้สนิทสนมกับซาเจ็กของเขานักในช่วงเดือนแรกๆ แค่เห็นกันแค่ชั่วครู่ในวันแรกที่เขากับแม่เดินทางไปถึง เพราะซาเจ็กเป็นคนขับรถไปรับแม่ที่สถานี หน่องบอกว่า ซาเจ็กของเขาเป็นผู้ชายหน้าตาดี แต่งตัวดี ตัดผมสั้น ค่อนข้างจะเป็นคนผอม แม้หน่องจะถูกชะตาญาติหนุ่มของเขาคนนี้เอามากๆ แต่ด้วยความที่ต้องอยู่บ้านสวนกับแม่ ขณะที่ซาเจ็กอยู่ในเมือง จึงแทบจะไม่ได้พบกันอีกเลย จนอีกนานหลังจากนั้น แล้วความซุกซนก็ทำให้หน่องได้พบของเล่นใหม่อีกชิ้น นอกเหนือจากนก หนู ปู ปลาในสวนยาง นั่นก็คือ “สมพร”

.. เด็กวัยรุ่นชาวอีสานที่อากงจ้างเอาไว้คอยดูแลถากถางหญ้าในสวน เจ้าสมพรตัวดำคนนี้ อายุประมาณสิบหกปี หน่องบอกผมมาว่า รูปร่างหน้าตาไม่ได้มีความหล่อเหลาเจือปนอยู่เลย แต่เป็นคนซื่อๆ ออกจะทึ่ม ไม่ค่อยพูด อากงให้ทำอะไรก็มีแต่รับคำแล้วลงมือทำอย่างขยันขันแข็ง อากงจึงสงสาร และปลูกกระต๊อบเล็กๆ ให้อยู่ในสวนเลย แถมข้าวสารของแห้งต่างๆ ยังให้มาเบิกเอาจากอาม่าได้อีกด้วย ความซนของหน่องที่ว่า คือการหลบแม่ลงไปในสวนตอนเย็นย่ำ ทั้งที่แม่ห้ามนักหนาด้วยกลัวจะเจองูเงี้ยวเขี้ยวขอเข้า ซึ่งก็จริง เพราะหนนี้หน่องได้เจองูอีสานตัวโตดำมะเมื่อม แต่มันไม่ทันได้กัดหน่องหรอก เพราะไอ้ตัวเล็กเป็นฝ่ายจัดการรีดพิษซะจนงูยักษ์ตัวนั้นคอพับคออ่อนไปซะก่อนนะสิครับ เรื่องที่เจ้าหน่องเล่าให้ผมฟัง มันเป็นแบบนี้ครับ...

.. ที่เชิงสะพานไม้เก่าๆ ซึ่งสร้างเอาไว้ข้ามคลองนั้น มีตุ่มมังกรใบใหญ่ใส่น้ำคลองที่แกว่งสารส้มเอาไว้จนใส สมพรนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียว นั่งอาบน้ำอยู่เงียบๆ หน่องเห็นจึงเกร่เข้าไปหาเพื่อพูดคุยแก้เหงาทันที แม้จะเป็นยามเย็นในสวนยาง ซึ่งค่อนข้างจะมืดครึ้มกว่าปกติ แต่แสงสุดท้ายของวันก็ยังคงมากพอที่จะทำให้หน่องเห็นเมื่อเข้าใกล้ว่า สมพรกำลังนั่งชักว่าวอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ ชนิดไม่ได้ยินเสียงเดินของหน่องที่มาหยุดอยู่ข้างหลังเลย

.. หน่องยืนมองการหาความสุขให้ตัวเองของสมพรอยู่ครู่ใหญ่ มือหยาบใหญ่ของเขากำรอบท่อนเนื้อเขื่องดำสนิท ที่โผล่ขึ้นมาจากรอยแหวกของผ้าขาวม้า แล้วรูดขึ้นลงเป็นจังหวะถี่ เสียงดับผับๆๆๆ ชัดเจน สบู่ที่เขาใช้เป็นเครื่องหล่อลื่นนั้น แตกเป็นฟองขาวฟ่อดลอดง่ามนิ้วออกมาเป็นครีมข้น ลำตัวของสมพรงุ้มงออย่างเสียวจัด หน่องรู้จากประสบการณ์ว่า สมพรกำลังจะถึงจุดสุดยอดแล้ว ภาพที่เห็น ทำให้หน่อง ซึ่งอดอยากปากแห้ง ไม่ได้เล่นควยมาเกือบเดือน ถึงกับน้ำลายสอออกมาเต็มปาก รูก้นสีชมพูเล็กๆ ของหน่อง ซึ่งเคยผ่านควยผู้ใหญ่มาแล้วถึงสองท่อน ถึงกับคันยิบขึ้นด้วยความอยากชนิดบรรยายไม่ถูก ทำให้หน่องตัดสินใจทันทีว่ายังไงเสีย วันนี้จะต้องจัดการกับควยขนาดมหึมาของสมพรคนซื่อผู้นี้ให้ได้

“พี่สมพร ทำอะไรน่ะ” หน่องตัดสินใจส่งเสียงขึ้น สมพรถึงกับสะดุ้งเฮือก ตวัดผ้าขาวม้าเปียกขึ้นคลุมท่อนควยตัวเองทันที แล้วหันมามองหน่องด้วยสีหน้าที่บรรยายไม่ถูก หน่องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เดินไปนั่งลงข้างๆ สมพร แถมยังมองท่อนควยที่ยังคงแข็งตัวเป็นลำ อยู่ใต้ผ้าเปียกแบบไม่เกรงใจสมพรเสียด้วย

“ควยพี่สมพรใหญ่จัง ฉันดูดให้เอามั้ย” เจ้าตัวเล็กทักถามเอาดื้อๆ เล่นเอาสมพรถึงกับอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกด้วยความตกใจ เขาปัดมือหน่องออกและลุกขึ้นยืนทันทีเมื่อเจ้าตัวเล็กเอื้อมเข้าไปจับ
“เอ๊ะ พี่สมพรนี่ เดี๋ยวฉันฟ้องอากงนะ”

.. เด็กที่เติบโตมาจากสังคมชนบทเล็กๆ ทางภาคอีสาน พอโตขึ้นหน่อยก็ต้องมาฝังชีวิตตัวเองไว้ในสวนยางทั้งวันทั้งคืนอย่างสมพรนั้น เรื่องที่หน่องปฏิบัติกับเขาเป็น เรื่องที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีอยู่ในโลกนี้ ในโลกของเขานั้น เรื่องทางเพศเป็นสิ่งน่าละอายไปหมดทั้งสิ้น อย่าว่าแต่การที่เด็กผู้ชายอย่างหน่องมาขอดูดควยเลย แม้กระทั่งการชักว่าวอย่างที่เขาชอบทำก่อนนอนนี่ก็เหมือนกัน เขาถือเป็นสิ่งผิด สิ่งที่น่าละอาย แต่ก็อดใจไม่ได้สักครั้ง เมื่อพลังหนุ่มในตัวต้องการการปลดเปลื้อง
.. เมื่อหน่องขู่ว่าจะฟ้องเจ้านายของเขาถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ความเชื่อที่ว่าจึงทำให้สมพรถึงกับหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ ควยที่ทอดตัวเป็นลำอยู่ใต้ผ้าขาวม้าเปียกแนบเนื้อนั้น แม้จะคล้อยลงต่ำเพราะความแข็งแกร่งเริ่มคลายลงเล็กน้อย แต่ขนาดของมัน ทั้งความอวบอ้วนและยาวใหญ่นั้น ทำให้หน่องซึ่งนั่งพิจารณาอยู่อย่างใกล้ชิดถึงกับต้องกลืนน้ำลาย และขณะที่สมพรกำลังลังเลว่าจะทำอย่างไรดีนั้น หน่องได้ขยับตัวมานั่งคุกเข่าเบื้องหน้าเขา แล้วเลิกผ้าขาวม้าออก

.. สมพรเสียววูบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อหน่องใช้มือถอกควยให้เขาเบาๆ โดยใช้สบู่ที่ยังคงเหลือค้างอยู่เป็นเครื่องหล่อลื่น มือของหน่องกำควยสมพรค่อนข้างแน่น เพราะเกรงว่าเด็กหนุ่มจะขยับตัวหนี แล้วจากนั้น ใบหน้าของหน่องก็ค่อยๆ โน้มเข้ามาหาแกนกลางลำตัวของสมพร ซึ่งคาดว่าคงจะยาวไม่ต่ำกว่าเก้านิ้วนั้นช้าๆ กลิ่นตัวของสมพรบวกกับกลิ่นสบู่ก้อนสีเขียวๆ นั้น รวมกันเป็นกลิ่นที่หน่องบรรยายไม่ถูก บอกได้แต่ว่ามันเป็นที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ

.. เขาแลบลิ้นออกเลียส่วนหัวควยของสมพร ซึ่งเบ่งบานเป็นสีม่วงเข้มก่อน โดยเฉพาะส่วนที่เป็นเงี่ยงทั้งด้านบนและด้านล่างนั้น หน่องปรนเปรอสมพรด้วยลิ้นอย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษ เล่นเอาสมพรยืนตัวงอด้วยความเสียวและส่งเสียงครางอู้ออกมา... แต่ด้วยความที่ยังเป็นเด็กหนุ่มไร้ประสบการณ์ของสมพร ทำให้รสสวาทระดับ “โหมโรง” ที่หน่องเพิ่งจะเริ่มบรรเลงให้เขานั้น กลายเป็นสิ่งที่สุดทน เจ้าหนุ่มน้อยจากที่ราบสูงกระตุกตัวพรืดไปด้านหลัง แล้วก็พ่นน้ำว่าวสีขาวข้นออกมาอย่างรุนแรงเป็นสายยาว สายแล้ว สายเล่า ขณะปากก็ส่งเสียงร้องเหมือนคนเจ็บหนัก

.. ใบหน้าหน่องเลอะเปรอะไปด้วยน้ำว่าวขาวข้นที่สมพรพ่นออกมาอย่างมากมาย หน่องรีบครอบปากลงบนหัวควยสมพรแล้วดูดแรงๆ สลับกับการกลืนกินน้ำว่าวลงท้อง ทั้งส่วนที่ยังพุ่งออกมาและส่วนที่เหลือค้างอยู่ในลำกล้องออกมาจนหมดสิ้น หน่องงุนงงกับอาการหลั่งเร็วจนเกินคาดของหนุ่มร่างล่ำคนนี้ แต่ยังไม่ทันคิดหรือพูดอะไร เขาก็ได้ยินเสียงแม่ ตะโกนเรียกเขาอยู่แว่วๆ เอาเถอะ วันนี้จะทำอะไรคงไม่สะดวก เพราะแม่มาตามแล้ว เขาคิดขณะใช้ชายผ้าขาวม้าของสมพรเช็ดคราบน้ำเมือกข้นๆ ออกจากใบหน้า

“พรุ่งนี้ ฉันจะมาหาอีกนะ” หน่องบอกแล้วก็วิ่งตื้อไปตามเสียงเรียกของแม่ ปล่อยให้เจ้าหนุ่มวัยรุ่นยืนตะลึงงั้น ไม่รู้ตัวว่า ควยขนาดเขื่อง เป็นมันเผล็บด้วยน้ำลายจะยื่นเหยียดยาวออกมานอกผ้าขาวม้า...

.. ตอนที่หน่องเห็นสมพรเป็นครั้งแรกเมื่อมาอยู่บ้านสวนใหม่ๆ นั้น เจ้าคนตัวดำไม่ได้เตะตา เรียกร้องความสนใจเจ้าหนูเลยแม้แต่น้อย แต่ในเมื่อได้เห็นควยขนาดมหึมาของเขาในเย็นวันนี้ ทำให้หน่องจัดการหมายหัวสมพรเอาไว้ในบัญชีสวาทของเขาทันที โดยชื่อนี้อยู่เป็นอันดับสองรองจากซาเจ็กของเขา รายซาเจ็กนั้น เมื่อไหร่จะมีโอกาสยังไม่รู้ แต่สำหรับสมพรแล้ว เจ้าหนูหมายมั่นปั้นมือว่า พรุ่งนี้ เขาจะลงมาจัดการกับควยยักษ์นั่นเสียให้สมอยาก เจ้าหน่องคิดเช่นนั้นโดยไม่รู้ว่า เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นพรุ่งนี้นั้นจะเปลี่ยนชีวิตของเขาและสมพรไปอย่างสิ้นเชิง...

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น