Subscribe:

Ads 468x60px

เรื่องเสียว : หนอนน้อย ( ตอนที่ 5)

### ตอนที่ 5 ###

สมพรตัดสินใจลาแม่ลาพ่อ หิ้วกระเป๋าใบเล็กๆ ออกจากบ้านที่กาฬสินธุ์ ตั้งใจจะมาทำงานในเรือประมงที่ปักษ์ใต้ ตามคำชวนของญาติห่างๆ คนหนึ่งเมื่อเกือบสามปีที่แล้ว

.. เด็กหนุ่มตัวดำ ซึ่งตอนนั้นอายุแค่สิบสาม มองญาติของเขาคนนั้นด้วยความชื่นชม เพราะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าใหม่ๆ สีสวย แถมมีสร้อยทองเล็กๆ แขวนอยู่ที่คอด้วย แม้จะไม่รู้ว่าอาชีพ “จับกังในเรือประมง” นั้นเป็นอย่างไร แต่สมพรปักใจเชื่อว่า ยังไงเสียมันก็ต้องดีกว่าการก้มหน้าทำนาในที่ดินผืนเล็กๆ ของพ่อแน่นอน

“ให้ฉันไปเถอะพ่อ ฉันสัญญาว่าจะใส่ทองกลับมาให้พ่อดู” สมพรบอกพ่อในวันที่อำลากัน แต่สมพรไม่มีโอกาสสะสมเงินไว้ซื้อทองใส่อย่างที่คิด เพราะงานในเรือประมงนั้นไม่ใช่ของง่ายนักสำหรับเด็ก แถมยังเป็นเด็กที่เพิ่งเคยเห็นทะเลเป็นครั้งแรกอย่างเขา

.. ออกเรือเที่ยวแรก สมพรเมาเรืออย่างรุนแรง ถึงขนาดจับไข้นอนซมตลอดหกวันที่เท้งเต้งอยู่กลางทะเล ไต้ก๋งต้องรีบเอาเขาส่งโรงพยาบาลทันทีที่เรือเทียบท่า แม้เจ้าของเรือจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด แต่สมพรก็ต้องทำงานแบกหามที่แพปลาชดใช้ให้อยู่หลายเดือน สมพรมีโอกาสขึ้นไปทำงานบนเรืออีกครั้งหลังจากนั้นเกือบปี แล้วเหตุการณ์ก็ซ้ำเก่า คือเขาเมาเรือจนทำงานไม่ได้ คราวนี้เจอกับไต้ก๋งที่มีความอดทนน้อยถึงกับจับเขาโยนทะเลดังตูม กว่าจะช่วยเหลือขึ้นมาได้ สมพรผู้น่าสงสารก็กลืนน้ำเค็มเข้าไปหลายอึก และเกลียดกลัวทะเลขึ้นมาจับใจ
.. นั่นคือสาเหตุที่สมพรตัดสินใจลาออกจากงาน และพกพาความคับแค้นติดตามอากงของหน่อง มาทำงานที่สวนยางทันทีเมื่อเจ้าของแพปลาแนะนำ แม้ว่าค่าแรงจะน้อยกว่า แต่งานก็เบากว่า และที่สำคัญคือ ไม่ต้องอยู่ใกล้ทะเลที่เขาทั้งเกลียดและกลัวอีกต่อไป ไม่มีใครรู้หรอกว่า ไม่ใช่เฉพาะทะเลเท่านั้นที่สมพรเกลียดชัง ความจริงแล้ว สิ่งที่หนุ่มน้อยจากภาคอีสานคนนี้เกลียดชังนั้นยังมีอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะชีวิตที่มีแต่ความคับแค้นและ ผิดหวังของเขา เด็กหนุ่มซึ่งไม่ค่อยพูดคนนี้ได้เก็บงำทุกอย่างอัดแน่นอยู่ในใจ คับแค้นอยู่เพียงลำพัง

.. แม้งานในสวนยางจะไม่หนักหนา แถมทั้งยังได้รับความเมตตาจากเจ้านายพอสมควร ทำให้สมพรผ่านวันเวลาไปอย่างไม่เข็นใจนัก รวมทั้งสามารถออมเงินยัดใส่กระป๋องไมโลขนาดใหญ่ที่เก็บมาจากถังขยะบ้านนาย ได้จนเต็ม แต่หากเมื่อใดที่ว่างมือ ใจของสมพรจะหวนกลับไปคิดถึงเรื่องราวหดหู่ที่ผ่านมาทุกครั้ง เสียงตะคอก ข่มขู่ หรือการลงมือทุบตีจากนายจ้าง และเพื่อนคนงานที่มีแต่รุ่นพ่อรุ่นพี่ ยังคงชัดเจนอยู่ในมโนนึกเสมอ สมพรจำภาพทุกภาพและคำทุกคำติดใจ ...แค้นจนมือสั่นระริก ผู้ชายทั่วโลกเขาหลับตานึกถึงภาพวาบหวิวขณะสำเร็จความใคร่โดยการกระตุกควยตัวเอง คงมีแต่สมพรคนเดียวกระมัง ที่ใช้ความเคียดแค้นเป็นองค์ประกอบ .............


--------------------------------------------------------------------------------

... ค่ำวันนั้น หน่องถูกแม่ตีและหยิกแรงๆ หลายครั้ง โทษฐานลงไปเล่นในสวนยางตอนค่ำๆ มืดๆ หากอากงไม่ปรามแม่เอาไว้ หน่องคงถูกบ่นไปอีกนานกว่าจะได้เข้านอน...
.. รุ่งขึ้น ทุกคนพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหารในครัว อาม่าทอดปลาเค็มหอมฉุย พร้อมกับข้าวอื่นอีกสองสามอย่าง ส่วนของหน่องนั้น อาม่าทอดปลาทูสดแล้วแกะเนื้อคลุกข้าวเหยาะน้ำปลาให้ เพราะรู้ว่าหน่องชอบเหลือเกิน หน่องสังเกตมานานแล้วว่าบ้านนี้ อาหารที่ขาดไม่ได้เลยคือปลา เพราะอากงมีหุ้นอยู่ที่แพปลาด้วยนั่นเอง

“เรื่องเอกสารของไอ้หน่องมันไปถึงไหนแล้วล่ะ” อากงถามแม่ถึงหลักฐานต่างๆ สำหรับใช้ในการเข้าเรียนต่อของหน่อง ซึ่งทั้งหมดตกค้างอยู่ที่กรุงเทพฯ
“พ่อมันส่งมาให้หรือยัง”
“เขาส่งมางวดนึงแล้ว แต่ไม่ครบ เพราะทางนี้เขาจะเอาใบรับรองจากโรงเรียนเก่าด้วย” แม่พูดกับอากงด้วยสำเนียงปักษ์ใต้ ที่หน่องชักคุ้นหูมากขึ้นหลังจากเวลาผ่านไปนานเข้า
.. วันนี้แม่แต่งตัวสวย เพราะเพิ่งได้งานบัญชีกับบริษัทในเมือง อากงทำเสียงขึ้นจมูกแบบขัดใจในความเชื่องช้าของลูกสาว ทำให้แม่ของหน่องต้องรีบอธิบาย
“แพรว่าจะให้มันหยุดไปเลยเทอมนี้ เพราะอีกเดือนกว่าๆ ก็สอบไล่แล้ว มันเข้าไปกลางเทอมแบบนี้ตามเขาไม่ทันแน่ หน่องมันเข้าเรียนก่อนเกณฑ์ ซ้ำสักปีก็ไม่เป็นไรหรอกป๋า”

.. อากงไม่ถามถึงสาเหตุของการหย่าร้างระหว่างพ่อกับแม่ของหน่องเลยแม้แต่น้อย อาจจะเป็นเพราะความรักลูกสาวคนเดียวอย่างล้นเหลือ จึงไม่อยากสะกิดแผลที่เริ่มตกสะเก็ดไปแล้วให้ปวดขึ้นมาอีก บางครั้ง หน่องก็อยากรู้ว่า หากอากงรู้ว่าสาเหตุที่แม่หอบหิ้วเขากลับมาบ้านครั้งนี้ เป็นเพราะแม่เห็นพ่อกำลังนอนถ่างขา ให้เขาดูดควยอย่างสบายอารมณ์ในเย็นวันหนึ่ง ที่แม่กลับบ้านเร็วกว่าปกติล่ะก็... อากงจะทำยังไง

.. แม่นั้น ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทำราวกับว่าเหตุการณ์นั้นไม่เคยเกิดขึ้น รวมถึงเรื่องที่พ่อต้องแยกบ้านออกไป และการหย่าร้างที่เริ่มต้นขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน หน่องค่อยๆ ซึบซับรับรู้ถึงความแตกร้าวที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองอย่างช้าๆ แต่จะว่าไป เด็กอย่างหน่องก็ไม่เดือดร้อนอะไรนักกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชีวิตของเขาก็ยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยความรักเหมือนเช่นปกติ จะมีก็แค่คิดถึงพ่อบ้างเท่านั้น แถมเป็นการคิดถึงในเชิงพิศวาสซะมากกว่าอย่างอื่นเสียด้วย

.. หลังกินข้าวเสร็จ แม่ขับมอเตอร์ไซค์ไปทำงาน ส่วนหน่องตามอากงลงสวน ป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ ระหว่างที่อากงสั่งงานให้สมพรทำ กระทั่งเกือบเที่ยง อากงจึงขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวและขับรถกระบะเก่าๆ ไปดูแลร้านสินค้าเกษตรฯ ในเมือง ทั้งบ้านจึงเหลือแต่หน่องกับอาม่าเท่านั้น หน่องรู้ว่า กว่าอากงกับแม่จะกลับถึงบ้านก็คงหลังหกโมงเย็น ส่วนอาม่านั้น ถ้าไม่มีธุระจะไม่เข้าไปในสวนยางเลย ดังนั้นเขาจึงมีเวลาเหลือเฟือที่จะใช้จัดการกับสมพรคนซื่อของเขา ควยเขื่องขนาดที่เขากำไม่รอบของสมพรนั้น ยังประทับติดตาเขาอยู่ไม่หาย หลังจากเหตุการณ์เสียวเล็กๆ ที่เกิดขึ้นริมคลองเมื่อเย็นวาน

.. สมพรซึ่งกำลังใช้จอบฟันดินโคนต้นยางอยู่ ถึงกับทิ้งจอบดังโครม แล้วเดินหนีทันทีที่เห็นหน่องเดินเข้ามา

“จะไปไหนล่ะพี่” หน่องทักด้วยเสียงร่าเริง มองแผ่นหลังชุ่มเหงื่อของสมพรอย่างคึกคะนอง
“อย่ามายุ่งกับผม ผมไม่ชอบนะ”
“ไม่ชอบเหรอ ไม่ชอบแล้วทำไมถึงน้ำแตกกระจายงั้นล่ะ” หน่องยั่วขณะเร่งเท้าเดินตาม สมพรไม่ตอบ แต่สาวเท้าเร็วขึ้น จนถึงบริเวณหน้ากระท่อมหลังน้อยของเขา สมพรตักน้ำในตุ่มดินเผาขึ้นล้างหน้า ล้างมือ ถอดเสื้อชุ่มเหงื่อที่ใส่ออกผึ่งลมไว้ที่ราวตากผ้า
“คุณอย่ามายุ่งกับผมเลย” เขาย้ำ
“ก็ฉันอยากเล่นควยของพี่สมพรอีกนี่” หน่องว่าขณะนั่งลงบนแคร่หน้ากระท่อม เท่านั้นเอง สมพรถึงกับถอนหายใจเสียงดัง ด้วยความขัดเคืองใจกับคำพูดที่เขาไม่ชอบฟัง แล้วเดินเลี่ยงเข้ากระท่อมไปทันที..

.. ในกระท่อมฝาขัดแตะหลังเล็กๆ ของสมพรนั้นค่อนข้างมืดเพราะมีหน้าต่างเพียงบานเดียวอยู่ทางด้านหลัง หน่องเห็นแคร่ยาวที่ใช้แทนเตียงนอนอยู่มุมหนึ่ง มีหมอนและผ้าห่มวางกองๆ เอาไว้ ด้านบนมีมุ้งที่เก่าจนดำคล้ำแขวนอยู่ ข้างๆ มีตู้เสื้อผ้าพลาสติกขาดๆ ที่ตกทอดกันมาหลายเจ้าของเต็มที นอกจากนั้นก็มีโต๊ะกินข้าว พร้อมเก้าอี้ที่สมพรใช้เศษไม้มาประกอบเองอย่างลวกๆ หนึ่งตัว หน่องได้กลิ่นฉุนของน้ำมันก๊าซสำหรับจุดตะเกียงตอนกลางคืนคลุ้งไปทั่ว ส่วนที่ถัดลึกเข้าไปชิดฝาด้านหลังนั้น ถูกสมพรจัดเป็นครัว มีหินสามเส้าวางแทนเตาไฟ มีหม้อมีชามก้นดำ หรือแม้กระทั่งไม้ฟืนสุมอยู่เต็ม

.. ตอนที่หน่องเดินตามสมพรเข้าไปนั้น เขาเห็นเด็กวัยรุ่นชาวอีสานกำลังตักข้าวสารใส่หม้อเตรียมจะหุง สมพรกำลังหิวข้าวจัดเพราะเลยเที่ยงมาเกือบชั่วโมงแล้ว หน่องถือดีว่ามีไพ่เหนือกว่า อีกทั้งเคยเผด็จศึกสมพรมาแล้ว คราวนี้ก็ไม่น่าจะยากเย็นเท่าใดนัก

“ถ้าพี่ไม่ยอมฉัน ฉันจะฟ้องอากงว่าพี่รังแกฉันด้วย”
“ผมไปรังแกอะไรคุณ” สมพรฉุนกึกกับเด็กที่พูดไม่รู้เรื่องคนนี้
“อ้าว ก็เมื่อเย็นวานไง ที่ริมคลองน่ะ” เจ้าหนูตอบลอยหน้าลอยตา แบบที่จำเอามาจากนางอิจฉาในละครทีวีที่แม่ชอบดู
“ก็เมื่อคืนคุณเป็นคน...” สมพรอ้ำอึ้ง พูดไม่ออก
“ถ้าฉันบอกอากงว่าพี่บังคับให้ฉันทำล่ะ...อากงเอาพี่ตายแน่” เท่านั้นเอง สมพรถึงกับวางหม้อข้าวลงกับพื้นดังปัง เอาอีกแล้ว กูถูกแกล้งอีกแล้ว..

.. เมื่อเห็นท่าของสมพรอ่อนลง หน่องเดินเข้าไปนั่งยองๆ อยู่ข้างๆ แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงออเซาะ
“เมื่อวานน่ะ พี่ชอบมั้ยล่ะ ให้ฉันดูดให้อีกเอามั้ย ควยพี่ใหญ่ดี ฉันชอบ” ไม่พูดเปล่า มือไม้ของหน่องเริ่มลูบไล้ล้วงควักเข้าไปในกางเกงชาวเลของสมพรแล้ว
“แต่คุณหน่อง คุณทำงี้มัน...มันไม่ถูกนะ” เสียงของสมพรฮึดฮัดเหมือนคนจนมุม นึกแค้นใจตัวเองที่แพ้แม้กระทั่งเด็กตัวกะเปี๊ยกแค่นี้ กลิ่นเหงื่อของหนุ่มที่ถือจอบฟันดินมาตั้งแต่เช้า สำหรับคนทั่วไปคงบอกว่าเหม็น แต่ในยามนี้ หน่องกลับคิดว่ามันชวนให้เกิดอารมณ์ได้อย่างประหลาด จนควยขนาดสามนิ้วของเขาแข็งตัวขึ้นมาทันที
“ไม่รู้ล่ะ ฉันรับรองว่าไม่บอกใคร น่าพี่... กว่าอากงจะกลับก็เย็นโน่น ไม่ต้องกลัวหรอกน่า” หน่องประเล้าประโลมเด็กหนุ่มรุ่นพี่ แล้วก็ดึงมือเขาให้ลุกขึ้นแล้วจูงมายังแคร่นอน

.. สมพรทรุดนั่งลงบนขอบแคร่แบบฝืนๆ ในหัวของเขาหมุนติ้วด้วยความคิดหลากหลาย เขาไม่ชอบเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น แม้ว่ามันจะเป็นความสุขทางเพศแบบที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน แต่สำนึกของเขาชี้ชัดว่าเป็นการกระทำที่ผิดในทุกๆ ด้าน และที่สำคัญคือเขาโกรธที่ถูกบังคับจนจนมุมเช่นนี้
.. หน่องเดินเลยออกไปตักน้ำจากตุ่มหน้ากระท่อมมาหนึ่งขันก่อนจะเดินกลับเข้ามา
“ล้างควยพี่หน่อยนะ” เจ้าหนูบอกขณะวางขันพลาสติกลงบนแคร่ แล้วแก้ปมกางเกงที่สมพรขมวดเอาไว้
“โธ่ คุณหน่อง อย่าเลย..” สมพรยังคงพยายามเปลี่ยนความคิดของหน่อง แต่ไร้ผล เพราะกางเกงชาวเลของเขาถูกเปลื้องหลุดออกพ้นขาไปจนได้

.. หน่องราดน้ำช้าๆ ลงบนควยดำมะเมื่อมของสมพร แม้ว่าจะอยู่ในอาการหดตัว แต่ขนาดของมันก็ยังคงน่ากลัวอยู่นั่นเอง และเมื่อหน่องใช้มือรูดเพื่อทำความสะอาด ควยของเด็กวัยรุ่นก็เริ่มมีอาการตอบสนองด้วยการผงกหัวหงึกหงัก หน่องรูดช้าๆ เบาๆ อีกชั่วครู่ มันก็เหยียดเกร็งตัว ท่อนลำของสมพรยาวเลยเก้านิ้ว โค้งลงเล็กน้อย ส่วนหัวสีคล้ำนั้นบานออกเหมือนมีหมวกครอบเอาไว้


“หูย ยังกะขวดโค้กแน่ะ” หน่องนึกเปรียบขนาดควยของสมพรได้อย่างใกล้เคียงความจริง ขณะใช้สองมือกำประคองท่อนลำ ในที่มีเส้นเอ็นเส้นโตพาดผ่านไปมาอย่างสุดแสนเสน่ห์หา ควยอันน้อยๆ ของเขาในกางเกงขาสั้นแข็งตัวเต็มที่ เขาเงยหน้าขึ้นยิ้มให้สมพรด้วยอาการของเด็กที่ได้ของเล่นถูกใจ น้ำลายแตกซ่านอยู่ในปาก จากนั้นก็ก้มหน้าลงไป หน่องไม่เห็นหรอกว่า สายตาของสมพรที่ก้มลงมองเขานั้น ไม่ใช่สายตาของสมพรคนซื่อที่เขาเคยเห็นอีกแล้ว แต่เป็นสายตาดุดันแบบที่ไม่เคยมีใครเห็น

.. รสแรกที่สัมผัสปลายลิ้นของหน่องคือเค็มปะเล็ม ขณะจมูกได้กลิ่นอับๆ โชยขึ้นมาจากบริเวณพงขนดกดำของสมพร หน่องแลบลิ้นออกมาเลียหัวควยของสมพรเบาๆ จากนั้นลากลิ้นวนเป็นวงกลม ขณะที่ลิ้นลากผ่านรอยผ่าเล็กๆ นั้น หน่องได้รับรสชาติคุ้นเคยของน้ำเมือกที่ได้กินไปอึกใหญ่ๆ เมื่อเย็นวานอีกครั้ง “ทุกอย่างกำลังไปได้สวย” หน่องนึกขณะอ้าปากกว้างแล้วครอบท่อนลำดำมะเมื่อมลงไปช้าๆ หน่องรับรู้ถึงรสชาติเค็มมันของท่อนควยด้วยลิ้นขณะที่มันค่อยๆ สอดลึกเข้าไปในปากเขา ควยของสมพรหายเข้าไปในปากหน่องได้ประมาณครึ่งลำ มันก็ไปสุดอยู่ที่ผนังด้านใน และก่อนที่หน่องจะดูดแรงๆ ขณะยกหัวขึ้นมาตามที่พ่อเคยสอนนั้น สมพรขยับเด้งควยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หัวควยเขาทะลวงพรวดผ่านลิ้นไก่ลงลำคอของหน่อง หน่องสำลักจนต้องถอนปากออกมาไอและหอบหายใจรุนแรง

.. สมพร ซึ่งหลับตาแน่นเหมือนพยายามไม่รับรู้ถึงความวิปริตวิตถารที่กำลังเกิดขึ้นกับเขา ได้ลืมตาขึ้นมองหน่องอย่างไม่สบใจ
“อย่าหยุดสิ” หน่องไอจนน้ำหูน้ำตาไหลครู่ใหญ่จึงบรรเทา นี่คือควยท่อนใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา และดูทีท่าว่ามันยากที่จะจัดการอยู่ไม่น้อย... หน่องมองท่อนเนื้อที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายของเขาอย่างลังเล
“ก็อยากดูดควยนักไม่ใช่เหรอ เอาสิ ดูดสิ” สมพรใช้สองมือหยาบใหญ่ของเขาโน้มหัวของหน่องลงมายังควยของเขา หน่องอ้าปากกว้างและพยายามอีกครั้งที่จะใช้ปากอย่างดีที่สุด แต่ขนาดของมันทำให้เขาปรนเปรอสมพรอย่างที่เคยปรนเปรอพ่อและพี่พลของเขาไม่ได้

.. หน่องเริ่มรู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก เมื่อสมพรจับหัวของเขาขย่มลงบนท่อนเนื้อแกร่งนั้นอย่างรุนแรง ความสนุกสนานตื่นเต้นจางหายไปอย่างรวดเร็ว เหลือแต่ความตื่นตระหนกเอาไว้ หน่องหายใจไม่ออกเมื่อท่อนควยของสมพรทะลุทะลวงลงไปในลำคอของเขา อึดอัดและสำลักจนน้ำมูกใสๆ พุ่งออกจากจมูก มือเขาของเริ่มตะกายข่วนแขนของสมพร แต่หนุ่มวัยรุ่นหน้ามืดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยศีรษะเขา สัญชาตญาณของการเอาตัวรอด หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้หน่องตัดสินใจกัดลงไป หลังจากนั้นทุกอย่างสับสนอลหม่าน หน่องได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของสมพร และรู้สึกว่าตัวเองถูกผลักกระเด็น... หน่องมารู้ตัวอีกครั้งที่ใต้โต๊ะกินข้าว เขาไอ หอบรุนแรงจนหายใจไม่ทัน ร่างเล็กๆ ของเด็กเก้าขวบสั่นระริกด้วยความเจ็บปวดและตื่นกลัว น้ำตาไหลพรากๆ

.. ร่างเปลือยเปล่าของสมพรลุกขึ้นยืน ถลึงตามองหน่องแบบคนโกรธจัด ควยมหึมาแข็งชี้ชันอย่างน่ากลัว เขาก้มมองรอยฟันเล็กๆ ประทับอยู่บนเนื้อเนียนสีคล้ำนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะมองมายังเด็กชายที่ขดตัวอยู่ใต้โต๊ะ ด้วยสายตาที่เหมือนจะลุกเป็นไฟ ความหื่นกระหาย ข่มความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นให้หดหายไปอย่างรวดเร็ว แสงจ้าจากกรอบประตูที่ส่องเข้ามาทางเบื้องหลังร่างทมึนนั้น ทำให้ตาของหน่องพร่า รู้สึกเหมือนกับโครงร่างสีดำจะขยายใหญ่โตขึ้นจนเกินความจริง

“เป็นผู้ชายดีๆ ไม่ชอบ อยากถูกเย็ดใช่ไหม” สมพรผู้ถูกความคับแค้นปนอารมณ์ใคร่เข้าครอบงำเต็มตัว เน้นเสียงรอดไรฟัน น้ำเสียงแบบนี้หน่องไม่เคยได้ยิน เขากลัวจับใจเมื่อสมพรคว้าแขนเขาแล้วเหวี่ยงไปติดแคร่ ก่อนจะตามไปฉีกกระชากเสื้อยืดจนขาดติดมือออกมา จากนั้นก็กระตุกขอบกางเกงจนตะขอหลุด และอีกครู่เดียวหลังจากนั้น ร่างเปลือยเปล่าของหน่องก็ถูกยกและโยนลงบนแคร่ หน่องนอนคว่ำทับผ้าห่มและหมอนดำๆ ที่กองเอาไว้จนก้นน้อยๆ ของเขาโด่งขึ้นมา สมพรตามติดขึ้นไปบนแคร่ พึมพัมถ้อยคำที่หน่องฟังไม่ออก ขณะถุยน้ำลายใส่อุ้งมือแล้วปาดป้ายใส่ก้นของหน่อง รวมทั้งถูไถลำควยของตัวเองจนชุ่ม

“รังแกกันนัก รังแกกันนัก มึงเห็นกูเป็นอะไร” เขาเค้นเสียงขณะจ่อหัวควยขนาดมหึมาเข้ากับรูเล็กๆ สีชมพูสดใสของหน่อง แล้วออกแรงกดเข้าไปเต็มแรง ร่างน้อยๆ ที่ขาวโพลนอยู่ในแสงสลัวนั้น กำลังกลายเป็นตัวแทนของความไม่ยุติธรรมในสังคม ความเห็นแก่ตัวของเหล่านายจ้างและบุคคลรอบข้าง ที่สมพรต้องก้มหน้ายอมทนมาเกือบสามปี... บัดนี้ เขากำลังแก้แค้น เสียงกรีดร้องของหน่องดังกึกก้องไปทั่วสวนยางในวันนั้น แต่...ไม่มีใครสักคนที่ได้ยิน...


--------------------------------------------------------------------------------

... หน่องสลบอยู่บนแคร่ของสมพรจนมืดค่ำ กว่าอากงจะตามหาเขาพบและอุ้มเขาไปปฐมพยาบาลบนบ้านนั้น เวลาก็ผ่านไปจนเกือบสองทุ่ม ซึ่งในขณะนั้น สมพรกำลังนั่งอยู่บนรถ บขส. ที่ตะบึงเข้ากรุงเทพฯ ด้วยจิตใจที่ไม่ปกตินัก ท่อนเนื้อในกางเกงยังคงปวดตุบๆ จากรอยกัด เหมือนไม่ยอมให้เขาลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา... เขาจะกลับบ้าน... หากถึงบ้าน ทุกอย่างจะเรียบร้อย... เขาปลอบตัวเองอย่างนั้น...

.. หน่องได้สติที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดในเวลาเช้ามืดของวันต่อมา เขายิ้มแบบเปลี้ยๆ ให้แม่และอากงที่ยืนอยู่ข้างเตียง แม่นั้นร้องไห้จนตาบวมด้วยความสงสารลูก ส่วนอากงยืนนิ่งๆ ด้วยความรู้สึกที่หน่องเดาไม่ถูก ตอนนั้นเองที่แม่เพิ่งสังเกตเห็นว่า สร้อยคอของหน่องหายไป สมพรสะพายเป้ใบเล็กๆ ก้าวลงจากรถบขส.ที่สถานีขนส่งสายใต้ในตอนเช้ามืด อาการปวดหายไปแล้ว... เขายกมือขึ้นจับสร้อยคอทองคำเส้นเล็กๆ ที่คล้องคอเขาอยู่ คล้ายกับจะให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นความจริง

.. ขณะแวะกินข้าวต้มจากรถเข็นริมถนน และถามแม่ค้าถึงสายรถเมล์ที่จะไปหมอชิดนั้น สมพรยิ้มกับตัวเอง ยิ้มให้กับชัยชนะที่เขาได้มา... ครึ่งทางแล้ว อีกไม่นานเขาก็จะถึงบ้าน ได้ไหว้พ่อไหว้แม่ ได้อวดสร้อยทองตามที่สัญญาเอาไว้ จากนั้นเขาจะเอาเงินเกือบสองหมื่นบาท ที่ใช้หยาดเหงื่อแลกเอามาจากงานในสวนยางให้พ่อ พ่อจะต้องดีใจและภูมิใจในตัวเขาแน่

.. บนรถบขส.ที่กำลังมุ่งหน้าสู่กาฬสินธุ์นั้น สมพรดึงเสื้อสีสดใสออกจากถุงพลาสติกทีละตัว พิจารณาลูบคลำอย่างชื่นชม และภาคภูมิใจ เสื้อสีสวยๆ จากแผงลอยหน้าตลาดหมอชิดพวกนี้ จะทำให้ฐานะทางสังคมของเขาที่กาฬสินธุ์เปลี่ยนไป...
.. คราวนี้ เขาจะเป็นฝ่ายยืดให้คนอื่นมองอย่างชื่นชมบ้าง...
.. โลกทั้งโลกเป็นของเขา ทุกสิ่งที่เขาปรารถนา เป็นของเขาหมดแล้ว...

ช่วงนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น หน่องได้คุ้นเคยกับซาเจ็กของเขามากขึ้น เพราะซาเจ็ก หรือที่แม่เรียก “น้องพฤกษ์” นั้น หอบผลไม้มาเยี่ยมแทบทุกวัน บางวันก็อยู่คุยเป็นเพื่อนหน่องตั้งแต่เช้ายันเย็น อากงเรียกซาเจ็กว่า “ไอ้พวงมาลัย” เพราะเขาสามารถที่จะลอยไปลอยมาได้ โดยไม่มีภาระอะไรให้ทำมากนัก นอกจากมาเฝ้าร้านอุปกรณ์การเกษตรให้อากงในช่วงเช้า หรือขับรถไปทำธุระให้อากงบ้างตามแต่สั่ง...
.. เพราะนับตั้งแต่ “น้าดา” เมียของเขาซึ่งยึดอาชีพคนทรงเจ้าเมื่อเกือบสองปีที่ผ่านมา รายได้ที่เข้าบ้านนั้นมากพอที่จะทำให้ซาเจ็กไม่ต้องไปทำงานเสมียนเงินเดือนน้อย อย่างที่เคยทำอีกต่อไป

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น